จำนวผู้เยี่ยมชม

วันอังคารที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

8 เรื่องจริงของผิวที่คุณยังไม่รู้

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

ในขณะที่คุณผู้หญิงต่างหาข้อมูลเคล็ดลับมากมายเกี่ยวกับการดูแลรักษาผิวให้นุ่มนวล เนียนกระชับ ไร้ริ้วรอย แต่บางทีอาจะมีข้อมูลธรรมดา ๆ บางประการที่คุณยังมองข้ามไปก็ได้นะคะ ลองมาดูกันว่ากับ 8 เรื่องที่คุณผู้หญิงอาจยังไม่รู้เกี่ยวกับการมีผิวสวย ลองเช็คดูสิว่าคุณเคยได้ยินได้ฟังมันมาบ้างหรือเปล่า

1. ครีมบำรุงธรรมดา ก็ทำให้หน้าดีขึ้นได้

เชื่อเถอะว่าแม้จะเป็นครีมบำรุงผิวหน้าสูตรเบสิค ที่ราคาอาจถูกที่สุดในบรรดาเครื่องประทินผิวของแบรนด์นั้น ๆ หรือว่าเป็นครีมทาหน้าที่ได้มาจากการเข้าพักที่โรงแรม ก็ช่วยให้ผิวหน้าของคุณดูดีขึ้นได้ เพราะความจริงแล้วครีมบำรุงส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ทำให้ริ้วรอยบนใบหน้าจางลงอย่างเห็นผลชัดเจน ที่คุณรู้สึกว่าผิวหน้าดูดีขึ้นก็เพราะได้รับความชุ่มชื้นจากตัวเนื้อครีม ที่มีส่วนผสมพื้นฐานจากกลีเซอรีน เชียร์บัตเตอร์ หรือว่าสารที่ให้ความชุ่มชื้นต่างหาก เพราะฉะนั้นการจะมีผิวหน้านุ่มเนียนสุขภาพดีได้จึงไม่จำเป็นต้องเลือกใช้แบรนด์หรู ราคาสูงลิบเสมอไปหรอกค่ะ

2. ออกกำลังกายหนัก ๆ ทำหน้าเหี่ยว

หุ่นจะฟิตร่างกายจะเฟิร์มได้ก็ต้องออกกำลังกาย แต่คุณผู้หญิงเคยทราบไหมคะว่าการออกกำลังกายหนัก ๆ ก็สามารถทำให้หน้าเหี่ยวได้เหมือนกัน อันเกิดจากการออกแรงมากทำให้คุณต้องเกร็งส่วนของกรามและลำคอ นอกจากทำให้เส้นเอ็นที่คอปูดโปนออกมา ยังดึงรั้งให้ผิวหน้าย่นลงด้วย

3. รังสีทำลายผิวได้แม้ในที่ร่ม

นี่เป็นข้อหนึ่งที่หลาย ๆ คนน่าจะทราบกันเป็นอย่างดี ว่ารังสีจากแสงอาทิตย์สามารถทำร้ายผิวของคุณได้แม้จะอยู่ในที่ที่มีกำบังมิดชิด อย่างในออฟฟิศ ในรถ หรือว่าในบ้าน เพราะรังสี UVB สามารถทะลุลอดผ่านกระจกหรือหน้าต่างมาได้ เมื่อเกิดการทำร้ายผิวสะสมนาน ๆ เข้า ก็ก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนังในยามที่คุณแก่ตัวลงไป หรือเกิดเป็นฝ้า กระ อย่างที่พบเห็นได้มากในผู้สูงอายุ เพราะฉะนั้นการทาผิวด้วยครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอไม่ว่าคุณจะออกจากบ้านหรือไม่จึงเป็นเรื่องที่สมควรทำให้เป็นนิสัยจริง ๆ

4. แม้ไม่โดนแดดผิวก็ไหม้ได้

อาการผิวแดงและลอกที่เรียกว่าผิวไหม้ (sunburn) ไม่ได้มาจากการอยู่ใต้แสงแดดจัดจ้าเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แม้แต่การนั่งรอบกองไฟในระยะ 2-3 เมตร ยืนปิ้งบาร์บีคิวในงานปาร์ตี้หลังบ้าน ก็ทำให้ผิวคุณเกิดอาหารเห่อแดง ไหม้ลอก และทำลายความยืดหยุ่นของคอลลาเจนในผิวหนังได้เช่นเดียวกับอันตรายจากแสงแดดเลยทีเดียว

5. ฟิลเลอร์ไม่ได้ให้ผลที่ดีเสมอไป

ปัจจุบันนี้การฉีดฟิลเลอร์เสริมร่องริ้วรอยให้ดูตื้นขึ้น สามารถเข้าถึงได้ง่ายกว่าเดิมมาก แต่หลาย ๆ ครั้ง ผลของมันก็ไม่ได้น่าพึงพอใจเสมอไป เมื่อมักฉีดเข้าไปที่บริเวณหว่างคิ้ว ข้างแก้ม หรือที่รอยตีนกา ซึ่งทำให้ผิวบริเวณนั้นดูตึงขึ้น แต่มันก็ทำให้ใบหน้าดูแข็งไม่เป็นธรรมชาติ แต่หากเป็นการศัลยกรรมอีกประเภทที่ใช้ไขมันจากส่วนเกินของตัวเอง ฉีดเสริมเข้าบริเวณกรอบหน้า เช่น ขมับ ด้านหน้ากกหู และคาง จะทำให้ใบหน้าดูเต็มขึ้น แต่ยังคงความนุ่มนวลเป็นธรรมชาติกว่า แต่อย่างไรก็ตาม การเสริมด้วยการปลูกถ่ายไขมัน ผิวยังคงสูญเสียความตึงกระชับลงไปได้ทีละน้อยตามระยะเวลา แต่ไม่ว่าอย่างไรรับรองว่ามันจะเป็นธรรมชาติกว่าการฉีดฟิลเลอร์แน่นอน

6. โบท็อกซ์ทำได้ทุกอย่าง

มาถึงการเสริมความงามชะลอริ้วรอยด้วยการฉีดโบท็อกซ์ ประโยชน์ของมันไม่ได้อยู่ที่ป้องกันการเกิดริ้วรอยบนใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นรอยตีนกา รอยย่นที่หว่างคิ้ว ที่หน้าผาก หรือว่าที่ข้างแก้มเท่านั้น แต่มันยังช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะจากโรคไมเกรน แก้ไขรอยยิ้มที่เผยเหงือกมากเกินไป รวมทั้งลดอาการเหงื่อออกมากเกินไปได้อีกด้วย เรียกว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัวเลยล่ะ ใครที่มีปัญหาตามที่กล่าวนี้ ก็สามารถปรึกษากับแพทย์ของคุณถึงความเป็นไปได้ที่จะรักษาด้วยการฉีดโบท็อกซ์ดูก็ได้นะคะ

7. ดื่มน้ำก็ทำร้ายผิวได้

หนึ่งในข้อปฏิบัติเพื่อผิวสวยคือ ให้ดื่มน้ำเยอะ ๆ แต่รู้ไหมว่ามันก็มีเหตุที่สามารถทำร้ายผิวของคุณซุกซ่อนมาด้วย นั่นคือเมื่อยามที่คุณดื่มน้ำจากขวดโดยใช้หลอดดูดนั่นเอง กิริยาการดูดน้ำ ที่ต้องห่อปากทำปากจู๋ ทำให้เกิดริ้วรอยบาง ๆ สะสมที่บริเวณรอบปาก และนั่นคือสิ่งที่คุณไม่ปรารถนาเลยใช่ไหม เพราะฉะนั้นเพื่อดื่มน้ำให้ดีกับผิวจริง ๆ เปลี่ยนเป็นการดื่มจากแก้ว หรือยกดื่มจากระบอกน้ำส่วนตัวของคุณดีกว่า

8. การนอนทำให้เกิดริ้วรอย

การนอนหลับยาว ๆ อย่างเต็มที่อาจไม่ได้ทำให้ผิวของคุณได้พักผ่อนฟื้นฟูซ่อมแซมตัวเองเพียงอย่างเดียว แต่มันอาจทำให้เกิดริ้วรอยบนใบหน้าคุณได้ด้วย และมันจะเป็นเช่นนั้นในยามที่คุณนอนตะแคงนั่นเอง สังเกตดูสิว่าวันที่คุณตื่นมาแล้วพบว่าตัวเอง "หน้ายับ" คุณมักอยู่ในท่านอนตะแคงก่อนจะตื่นขึ้นมาเสมอ แม้ผิวจะค่อย ๆ ฟู และรอยยับบนใบหน้าค่อย ๆ หายไปในเวลาไม่นาน แต่เมื่ออายุมากขึ้นและผิวเริ่มเสียความยืดหยุ่นไปแล้ว การที่ผิวจะกลับมาฟูเรียบเหมือนเดิมย่อมใช้เวลามากขึ้น และหากยังนอนตะแคงจนเป็นนิสัย ก็อาจทำให้เกิดริ้วรอยถาวรได้


มีเรื่องไหนที่สาว ๆ ไม่เคยรู้มาก่อน หรือว่าเคยรู้แต่ว่ามองข้ามมันไปบ้างไหมคะ ทั้ง 8 เรื่องเหล่านี้สามารถส่งผลกับผิวของคุณได้จริง เพราะฉะนั้นเมื่อได้รู้อย่างนี้แล้วก็อย่าลืมนำไปใช้กันด้วยนะจ๊ะ :)

วิธีรักษาสิว

วิธี รักษาสิว ได้ผล 100% ด้วยวิธีธรรมชาติ สำหรับคนที่เป็น สิว ไม่ว่าจะเป็น สิวหัวช้าง หรือ สิวเสี้ยน ทั่วไป วิธีรักษา สิว อย่างได้ผลที่สามารถทำได้เอง หนึ่งในนั้นคือ ใช้น้ำมะนาวเพื่อบรรเทารักษา สิว ซึ่งเป็นวิธีธรรมชาติในการรักษาสิวที่ง่ายและปลอดภัย สามารถใช้ได้ทั้งทาบนผิวและดื่ม ทั้งสองวิธีจะช่วยลดการเกิดสิวและรอยแผลเป็นทั้งภายนอกและภายใน ผลการ รักษาสิว – ได้มีทดลองใช้น้ำมะนาวทั้งสองวิธีแล้ว (ทาโดยตรงบนผิวหน้า และดื่ม) และพบว่าภายใน 3 สัปดาห์ สิวก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัด และเชื่อว่าการผสมน้ำมะนาวกับผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่อ่อนโยน จะช่วยให้ผลเร็วขึ้น ทาน้ำมะนาวโดยตรงบนสิว เพื่อรักษาอาการ สิว น้ำมะนาวมีกรดผลไม้ AHA หรือ Alpha Hydroxy Acids ทำงานโดยการลอกเอาเซลล์ผิวที่ตายแล้วออก ช่วยสร้างความยืดหยุ่นให้แก่ผิว และช่วยให้เซลล์ผิวใหม่ที่อยู่ด้านล่างได้ผลัดขึ้นมาแทนที่เซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้ว ยังช่วยชำระรูขุมขนและช่วยให้ผิวรู้สึกสดชื่น สดใสด้วย วิธีรักษา สิว โดยสูตรน้ำมะนาว ล้างหน้าให้สะอาด บีบน้ำมะนาว 1 ช้อนชาในถ้วยเล็ก ใช้สำลีจุ่มน้ำมะนาวพอเปียก อาจผสมน้ำหากรู้สึกว่าแสบเกินไป ป้ายน้ำมะนาวลงบนสิว สิวหัวขาว สิวหัวดำ สิวหัวหนอง ทิ้งไว้ทั้งคืนโดยไม่ต้องล้างออก ล้างออกตอนเช้า และทาอีกครั้งก่อนเมคอัพ (หากคุณต้องใช้เมคอัพ) หากรู้สึกว่าน้ำมะนาวนั้นแรงเกินไป แม้ว่าจะผสมน้ำให้เจือจางแล้วก็ตาม ให้ทิ้งไว้ 10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น วิธีการนี้ใช้เวลา 2 สัปดาห์เป็นอย่างต่ำจึงจะเห็นผล ดื่มน้ำมะนาวเพื่อรักษาสิว สามารถใช้วิธีการดื่มน้ำมะนาวเพื่อรักษาและทำความสะอาดภายในร่างกาย หรือขจัดสารพิษออกจากตับ และเพื่อให้การดูดซึมแร่ธาตุและวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกาย น้ำมะนาวนั้นเป็นเครื่องดื่มชนิดหนึ่งที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกายและผิวพรรณ ที่ช่วยให้กระชุ่มกระชวย ดื่มง่าย และทำได้ง่าย ความจริงแล้วการรักษาสิวด้วยการดื่มน้ำมะนาวนั้นมีประโยชน์หลายอย่าง ที่ทุกคนควรดื่ม (สำหรับคนที่ไม่แพ้มะนาว) ประโยชน์ต่าง ๆ เหล่านั้นคือ : ■ขจัดกรดต่าง ๆ ที่ตกค้างออกไป เพราะน้ำมะนาวมีแร่ธาตุต่าง ๆ (วิตามินซี, โพแทสเซียม) ■บรรเทาอาการท้องผูก ■ทำความสะอาดตับด้วยกรดซิตริก และสร้างเอนไซม์เพื่อขจัดสารพิษในเลือด ■ช่วยกระบวนการย่อยอาหาร ■กำจัดนิ่วในไต และตับอ่อน รักษาสิว โดยการดื่มน้ำมะนาว สูตร 1 บีบน้ำมะนาว 1 ผลลงในแก้ว เติมน้ำเปล่า 2 ถ้วย (ถ้วยละ 8 ออนซ์) ดื่มน้ำมะนาวที่ผสมนี้ได้ทั้งวัน รักษาสิวโดย การดื่มน้ำมะนาว สูตร 2 บีบน้ำมะนาว 1 ผล ผสมกับน้ำอุ่นที่ต้มแล้ว 1 ถ้วย (8 ออนซ์) ดื่มเป็นสิ่งแรกของวัน ในตอนเช้า หลังจากดื่มน้ำมะนาว งดการดื่ม หรือรับประทานสิ่งใด ๆ ภายในครึ่งชั่วโมง เพื่อให้น้ำมะนาวได้ชำระล้างร่างกาย

เที่ยวละไม

HOW TO บริหารหน้าเรียวสวยแบบ V-SHAPE by CLARINS

พฤติกรรมที่ผู้หญิงไม่ควรทำ

ไม่ล้างเครื่องสำอาง ปัญหานี้เรียกว่าเป็นเรื่องใหญ่ของผู้หญิงเราเลยนะคะ เพราะการที่สาวๆ ไม่ยอมลุกไปล้างเครื่องสำอางออกให้หมดก่อนเข้านอนนั้น จะก่อให้เกิดการสะสมจนอุดตัน และกลายเป็นสิวในที่สุด



ขี้เกียจถอนคอนแทคเลนส์ นี่ก็เป็นสิ่งที่อันตรายมากๆ ในหมู่สาวๆ ที่ชื่นชอบการเปลี่ยนสีตาด้วยคอนแทคเลนส์ เพราะการไม่ชอบถอดนั้น อาจทำให้ดวงตาของคุณเกิดการติดเชื้อ จนถึงขั้นตาบอดได้เลย



ไม่ยอมเคี้ยวอาหาร สาวๆ รู้เอาไว้เลยนะคะว่าการกระทำเช่นนี้จะทำให้กระเพาะอาหารทำงานหนักอย่างแรง อีกทั้งยังอาจจะส่งผลให้กระเพาะ รวมถึงลำไส้มีปัญหาได้ง่ายๆ



ไม่เช็ดฝารองชักโครก สาวๆ อย่ามองข้ามจุดนี้นะคะ อย่าด่วนสรุปเด็ดขาดว่าห้องน้ำที่คุณกำลังจะเข้านั้นสะอาดเพียงใด เพราะฝารองชักโครกก็เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคอยู่ไม่น้อยทีเดียว ดังนั้นก่อนใช้ทุกครั้งควรเช็ดก่อนจะดีมากเลย



ขี้เกียจถือโทรศัพท์ อันนี้เป็นพฤติกรรมอันแสนโดดเด่นของคุณผู้หญิงเรา คุณเธอทั้งหลายจะใช้โดยการเอามาแนบระหว่างลำคอกับบ่า ซึ่งจะส่งผลทำให้กล้ามเนื้อบริเวณดังกล่าวเกร็ง ถ้าทำบ่อยจะส่งผลให้เกิดอาการปวดคอเรื้อรัง และเส้นประสาทกล้ามเนื้ออักเสบได้



รู้อย่างนี้กันแล้วสาวๆ ทั้งหลายอย่าลืมทำตามด้วยนะคะ เพราะการที่สาวๆ ละเลย หรือไม่สนใจเรื่องต่างๆ เหล่านี้ อาจส่งผลร้ายอย่างมหันต์ตามมาแล้วจะสายเกินแก้จะหาว่าไม่เตือน

7ตำแหน่งที่สาวๆมักลืมทากันแดด

ร้อนๆแบบนี้ไม่ว่าใครก็ไม่อยากออกไปไหนจริงไหมคะเพื่อนๆ แมดดี้ก็เป็นอีกคนนึงแหละค่ะที่แบบแสงแดดจากดวงอาทิตย์ ถ้าไม่จำเป็นอะไรจริงๆจะไม่เยื่องกรายออกไปนอกบ้านเลยจริงๆแต่ถ้าจะออกไปไหนทีก็ต้องทากันแดดกันซะหน่อยแหละ ปกป้องกันซะหน่อยเนอะ ^^
ถึงแม้ว่าเราจะระมัดระวังในการทากันแดดเพื่อหลีกเลี่ยงผิวของเราจากการเผาไหม้ของดวงอาทิตย์โดยไม่พึงประสงค์แล้ว เพื่อนๆเคยสังเกตุกันรึเปล่าค่ะ ว่ามันมักจะมีรอยไหม้จากแดดเกินขึ้นบนร่างกายเราโดยที่เราไม่รู้ตัว นั่นแปลว่าเพื่อนๆไม่ได้ทากันแดดให้ครบทุกจุดนั่นเองคะ


วันนี้แมดดี้เลยมีทิปส์ดีๆสำหรับ 7ตำแหน่งที่เพื่อนๆมักหลงลืมในการทากันแดดมาให้เพื่อนๆได้อ่านกันคะ
1. บริเวณหูด้านบน 
หูลอกจนแสบแดง เพื่อนๆเคยได้ยินบ้างรึเปล่า ถ้าเพื่อนๆเคยได้ยินมาเพื่อนๆคงไม่อยากให้เกิดกับตัวเองแน่ๆ

2. บริเวณส่วนผม 
บริเวณผมเรานี่แหละค่ะ ที่แสงแดดจะสาดส่องเข้ามาเป็นจุดแรกของร่างกาย เพื่อนควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่รักษาเส้นผมที่ผสมสารกันแดด หรือใส่หมวกซะนะคะ

3. บริเวณใต้แขน
ลองนึกว่าเพื่อนๆใส่แขนสั้นแล้วออกไปทำกิจกรรมอะไรข้างนอกแล้วต้อยกแขนบ่อยๆสิคะ นั่นแหละค่ะ ผู้หญิงเรามักลืมทากันแดดบริเวณนี้ (ทาแต่แขนด้านนอก) 

4. บริเวณเท้า
 
เพื่อนๆบางคนอาจจะใส่รองเท้าแตะออกไปไหนมาไหน แต่ลองนึกภาพรอยไหม้จากแดดเป็นรอยรองแท้าแตะติดเท้าเพื่อนๆสิ มันคงไม่งามเนอะ
5. บริเวณหนังตา 
บริเวณนี้เป็นบริเวณที่บอบบางแต่ก็โดนแสงแดดเล่นงานได้ง่ายเหมือนกัน สิ่งที่ดีที่สุดคือการลงกันแดดเอาไว้บางๆเพื่อป้องกันการเผาไหม้

6. บริเวณเสื้อผ้าที่เปิดเว้า

ถ้าเพื่อนๆใส่ชุดที่โชว์ผิวพรรณแล้วจนลืมคิดไปว่าเราใส่เสื้อผ้าไปแล้วคงป้องกันแล้ว เพื่อนๆคิดผิดคะ เพื่อนๆควรทาบริเวณที่เปิดผิวด้วยเพื่อการป้องกันที่ดีไม่ให้เกิดการเผาไหม้ของผิว
7. บริเวณโคนผม
ในวันที่เพื่อนๆรวบผมหรอเปิดหน้าผาก บริเวณโคนผมก็เป็นจุดที่บอบบางอีกหนึ่งจุดที่สามารถโดนแสงแดดได้ง่าย มักเป็นอีกหนึ่งจุดที่สาวๆมักลืมกัน