จำนวผู้เยี่ยมชม

วันจันทร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2555

ไอเดียแต่งหน้าเริ่ด ๆ งานนี้ขอเจิดสุด สำหรับสาวนักปาร์ตี้

 
สาว ๆ ที่ชอบตามแฟชั่นเกาะติดการเดินแบบของแบรนด์เสื้อผ้าต่าง ๆ คงจะได้เห็นเทรนด์การแต่งหน้าของเหล่านางแบบมาแล้วหลากหลาย ต้องยอมรับว่าส่วนใหญ่ก็ดูเว่อร์เกินจริงไปหน่อย แต่ก็มีหลายคนแอบคิดในใจว่า ถ้าเราจะนำมาประยุกต์แต่งในชีวิตจริงได้ไหมน้า... ?

          งานนี้ขอบอกเลยว่า... ได้ค่ะ!! คุณสามารถนำไอเดียดี ๆ เว่อร์ ๆ เหล่านั้นมาแต่งหน้าเก๋ ๆ ให้ตัวเองได้ โดยเน้นใช้ในโอกาสพิเศษอย่างงานแฟนซี งานเลี้ยงสังสรรค์ยามค่ำคืน หรืองานปาร์ตี้ที่ต้องการเสริมลุคให้ดูเปรี้ยวซ่า สวยมั่น เจิด ๆ เชิ่ด ๆ และวันนี้กระปุกดอทคอมมีมาแนะนำด้วยกัน 3 แบบจ้า... ถ้าพร้อมแล้วก็ไปดูเลย...

       EYE EXOTICA

          แต่งตาแบบเริ่ด ๆ แนว ๆ ด้วยการใช้อายแชโดว์สีสดที่ไม่ค่อยเห็นใครใช้ เช่น สีโคบอลท์บลู สีเขียวปีกแมลงทับ หรือสีจี๊ด ๆ แบบสีนีออน มาทาตา หรือจะเปลี่ยนมันเป็นอายไลน์เนอร์สุดเปรี้ยวด้วยการใช้แปรงทาตาแตะน้ำแล้ว ซับให้หมาด ปาดอายแชโดว์แล้วนำมาเขียนขอบตาก็ได้ ยิ่งเขียนตวัดหางเปรี้ยว ๆ แบบแคทอาย ก็ยิ่งได้ลุคเก๋นะจะบอกให้ 

   SMOKE HAZARD

          เปลี่ยนดวงตาสวยดุแบบสโมคกี้อายให้เฉี่ยวขึ้นอีกระดับ ด้วยการเขียนขอบตาล่างด้วยสีนัว ๆ อย่างสีขาวควันบุหรี่ อาจไฮไลท์หัวตาด้วยสีทองเพื่อเพิ่มความหรูหราอีกนิด และทีเด็ดอยู่ที่การใช้อายแชโดว์สีสด ๆ ที่ชอบ เช่น สีเขียว สีม่วง สีน้ำเงิน ฯลฯ มาปาดทับที่เปลือกตาสโมคกี้อายอีกที ลุคนี้เลอะบ้างเปรอะบ้างไม่เป็นไร เพราะดูเลือน ๆ เบลอ ๆ หน่อยนั่นล่ะถึงจะเพอร์เฟคท์

  FLASH SOME LASH

          ไม่ว่าจะเมื่อไหร่ขนตาเด้ง ๆ ก็ทำให้ดวงตาของคุณโดดเด่นได้เสมอ ซีซั่นนี้ก็ดูเฉิดฉายกว่าใครด้วยการใข้มาสคาร่าสีแฟชั่น อย่างสีม่วง สีน้ำเงิน สีแดง ฯลฯ แต่อย่าลืมแต่งหน้าให้นู้ดเข้าไว้ จะได้ไม่ขโมยซีนกันนะจ๊ะ

วันอังคารที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2555

หุ่นแบบไหนก็ใส่ชุดว่ายน้ำให้สวยได้


ชุดว่ายน้ำสำหรับสาวอกใหญ่  ใครว่าหน้าอกใหญ่ไม่ใช่ปัญหา...เวลาเลือกชุดว่ายน้ำนี่ก็เครียดไม่น้อยกว่าสาวอกไข่ดาวเลยล่ะ
เพราะอยากใส่บิกินี่จิ๋วๆ น่ารักๆ อันนี้คงยากนิดนึง เพราะคงจะไม่เพียงพอจะเก็บได้หมดแน่ๆ
ห้ามเด็ดขาด เกาะอก บิกินี่สายสปาเก็ตตี้ ถ้าไม่อยากโป๊อ่ะนะ
ลองนี่สิ ชุดว่ายน้ำแบบคล้องคอ มีแบบเก๋ๆให้เลือกเพียบ ใครจะเลือกแบบ 2 piece เน้นชุดที่มียางยืดใต้หน้าอกหนาๆนิดนึงนะคะ

หรือจะเป็นแบบมีโครงก็จะช่วยเก็บทรงให้ดูดีขึ้นด้วยนะ
ชุดว่ายน้ำสำหรับสาวหุ่นตรงใส่ชุดว่ายน้ำให้สวยก็ต้องเห็นส่วนเว้าส่วนโค้ง แต่สาวๆที่หุ่นตรงๆคงแอบเครียดไม่น้อย
เพราะยิ่งรัดรูปก็ยิ่งเห็นชัดถึงการเป็นไม้บรรทัดของเรา - -“
ห้ามเด็ดขาด ชุดว่ายน้ำแบบชิ้นเดียว หรือทูพีซแบบกางเกง ยิ่งเน้นจุดด้อยเราให้ชัดไปกันใหญ่
ลองนี่สิ คิดถึงชุดว่ายน้ำเด็กๆ จะได้ไอเดียอีกเพียบ อย่าง 2 piece ที่มีจีบระบายในท่อนล่าง ที่จะช่วยเพิ่มสะโพกให้คุณ

ดูมีส่วนเว้ามากขึ้น แถมดูน่ารักขึ้นด้วยย หรืออยากเพิ่มสีสันก็ลองแบบลายขวาง ที่ช่วยทำให้ดูมีเอวมากขึ้นค่ะ
ชุดว่ายน้ำสำหรับสาวตุ้ยนุ้ยถึงชุดว่ายน้ำส่วนใหญ่จะไม่ได้ออกแบบมาเพื่อสาวอวบ แต่เราก็สามารถเลือกใส่ให้ดูดีได้
และก่อนอื่นเราต้องขจัดความคิดที่ว่า “สาวอวบจะใส่ชุดว่ายน้ำไม่ได้” ทิ้งซะก่อน

ห้ามเด็ดขาด ชุดว่ายน้ำลายขวางจีบระบาย และชุดสีหวานๆ ถึงจะน่ารักแต่ทำให้คุณอวบขึ้นอีก
ลองนี่สิ พอมั่นใจแล้ว ก็เลือกชุดทูพีชที่เหมือนเสื้อกล้าม กางเกงขาสั้น ก็เก๋นะคะเอาแบบให้โชว์สะดือเล็กน้อย หรือคอวีลึกๆ

ก็จะช่วยเบนความสนใจของหุ่นเราได้ค่ะ แบบที่มีดีเทลระดับใต้อก ช่วยปิดพุงได้ดีเลยล่ะ
ชุดว่ายน้ำสำหรับสาวต้นขาใหญ่ถือเป็นเฉพาะส่วนที่สาวๆหลายคนกังวลมากๆ เพราะชุดปกติสามารถพรางตาได้ง่าย
แต่พอเป็นชุดว่ายน้ำแล้วเริ่มเหงื่อตกขึ้นมาทันที มาลองดูวิธีกัน
ห้ามเด็ดขาด ปิดท่อนล่างจนเกินเหตุ บางทีการที่เราตั้งใจปกปิดมากไปก็ทำให้มันเด่นมากขึ้นนะ
ลองนี่สิ เลือกชิ้นบนให้มีลูกเล่น หรือสีสันฉูดฉาดมากๆ เพื่อดึงความสนใจ แล้วเลือกชิ้นล่างเป็นกระโปรงที่ไม่พองจนเกินไป หรือแบบกางเกงขาสั้นที่ช่วยให้คุณใส่ได้มั่นใจ

ใครปากเหม็น อ่านตรงนี้


เคยไหม...ที่เมื่อคุณยื่นหน้าไปพูดใกล้ๆ กับใครแล้วเขาก็เบือนหน้าหนี "กลิ่นปาก" ของคุณคือตัวการใหญ่ที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว แน่นอน...ไม่มีใครอยากถูกล้อว่าปากเหม็น แต่ที่แน่นอนกว่าก็คือ กลิ่นปากไม่ใช่สิ่งที่จะซ่อนเร้นเอาไว้ได้ง่ายๆ เพราะยังไง มันก็โชยออกมาได้โดยไม่ยาก ครั้นจะนั่งเงียบปิดปากตลอดทั้งวัน ก็ไม่ช่วย แถมทำให้เหม็นหนักขึ้น




แต่อย่าเพิ่งกังวลไปค่ะ ถ้าเราเข้าใจสาเหตุของการเกิดกลิ่นและวิธีระงับหรือขจัดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ในปากได้แล้ว ปัญหาที่น่าวิตกนี้ก็จะหายไปเอง โดยเบื้องต้น ต้องเข้าใจเสียก่อนค่ะว่า สาเหตุของการเกิดกลิ่นปาก มี 2 สาเหตุใหญ่ๆ คือ สาเหตุภายในช่องปาก กับสาเหตุภายนอกช่องปาก


A : สาเหตุภายในช่องปาก ส่วนใหญ่เกิดจาก


1. การไม่รักษาสุขภาพช่องปากให้ดี


เช่น แปรงฟันไม่สะอาด มีคราบอาหารหรือคราบแบคทีเรียเกาะอยู่ตามผิวฟัน ลิ้น หรือกระพุ้งแก้ม ก็ทำให้มีกลิ่นปากได้ ถ้ามีเศษอาหารติดตามซอกฟัน ต้องกำจัดออกโดยใช้ไหมขัดฟัน ซึ่งควรฝึกใช้ให้เป็นนิสัยอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง


2. การมีฟันผุ


ทำให้เศษอาหารติดค้างอยู่ในรูฟันที่ผุ อาหารเหล่านี้จะบูดเน่าและทำให้เกิดกลิ่น หรือผู้ที่มีฟันผุทะลุโพรงประสาทฟัน มีหนองที่ปลายรากฟัน หนองพวกนี้จะมีกลิ่นมาก การแก้ไขคือ อุดฟันซี่ที่มีการผุนั้น ถ้าผุทะลุโพรงประสาทแล้ว ก็ต้องรักษารากฟัน ถ้าผุมากจนไม่สามารถเก็บฟันไว้และรักษาให้ดีเหมือนเดิม ก็จะต้องถอนออก แล้วใส่ฟันปลอม


3. โรคเหงือกอักเสบและโรคปริทันต์


เหงือกอักเสบเนื่องจากมีหินปูน มีการสะสมของเศษอาหาร มีการทำลายอวัยวะรอบรากฟัน เหงือกอ้าออกจากตัวฟัน เศษอาหารเข้าไปสะสมได้ง่ายขึ้น และแปรงออกได้ไม่หมด นานๆ ไปจึงส่งกลิ่นออกมา การแก้ไขคือต้องกำจัดหินปูนออกให้หมด โดยให้ทันตแพทย์ขูดออก ในรายที่เหงือกอ้าออกมาก และมีหินปูนเข้าไปสะสมอยู่มาก อาจต้องผ่าตัดเปิดเหงือกออกเพื่อกำจัดหินปูนให้หมด แล้วจึงปิดเหงือกกลับเข้าไปตามเดิม


สำหรับยาสีฟันที่โฆษณาว่ากำจัดหินปูนได้นั้น ที่จริงเพียงแต่ไม่ทำให้เกิดการสะสมของหินปูนใหม่ แต่ถ้ามีหินปูนอยู่แล้ว จะกำจัดออกได้วิธีเดียวคือให้ทันตแพทย์ขูดออก สำหรับผู้ที่เป็นและเคยรักษาโรคปริทันต์มาแล้ว การแปรงฟันเพียงอย่างเดียวไม่สามารถกำจัดคราบแบคทีเรียหรือคราบอาหารออกได้หมด ต้องใช้เครื่องมือทำความสะอาดเพิ่ม เช่น ไหมขัดฟัน แผ่นเทปรัดฟัน แปรงซอกฟัน เป็นต้น


4. แผลในช่องปาก ก็ทำให้เกิดกลิ่นปากได้ เมื่อแผลหาย กลิ่นปากก็จะลดลง


นอกจากนี้กลิ่นปากอาจเกิดขึ้นได้ภายหลังการถอนฟัน หรือผ่าตัดในช่องปาก เนื่องจากขณะมีแผลในปาก ผู้ป่วยมักจะใช้ฟันบดเคี้ยวอาหารได้ไม่ถนัด การรับประทานอาหารอ่อนทำให้มีอาหารติดฟันได้ง่ายและมากขึ้น แผลที่มีเลือดไหลซึม จะเป็นอาหารอย่างดีของเชื้อโรคในช่องปาก ทำให้เกิดการบูดเน่าของอาหารและเลือดมีกลิ่นเหม็นได้


การแก้ไขคือ ขณะมีแผลในปาก ไม่ควรละเลยการทำความสะอาดช่องปาก หลังรับประทานอาหารควรแปรงฟันทันที โดยใช้แปรงปัดเบาๆ เพื่อไม่ให้คราบอาหารเกาะฟันนาน จะแปรงออกได้ง่ายกว่า ถ้าอ้าปากหรือแปรงฟันไม่ได้ ให้บ้วนปากด้วยน้ำเกลืออุ่นๆ ทุกครั้งหลังรับประทานอาหาร ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำอุ่นพันนิ้วเช็ดฟัน เมื่อแผลหายและแปรงฟันหรือรับประทานอาหารได้ตามปกติแล้ว กลิ่นปากก็จะหายไป


5. ผู้ที่ใส่ฟันปลอมหรือใส่เครื่องมือต่างๆ ในปาก


เช่น เครื่องมือจัดฟัน เครื่องมือกันฟันล้มเก หรือเฝือกสบฟัน เป็นต้น เครื่องมือเหล่านี้ ถ้ารักษาความสะอาดไม่ดีจะทำให้มีกลิ่นได้ โดยเฉพาะเครื่องมือที่ทำด้วยอะคริลิกหรือมีส่วนของอะคริลิกอยู่ด้วย เนื้ออะคริลิกจะมีรูพรุน จะดูดซึมของเหลวต่างๆ ได้ ถ้าล้างไม่สะอาด อาหารก็จะบูดเน่าติดอยู่กับเครื่องมือ ทำให้มีกลิ่นได้ ดังนั้นควรทำความสะอาดเครื่องมือทุกครั้งหลังจากถอดแล้ว และถ้ายังไม่ใส่ต่อควรแช่ไว้ในน้ำสะอาด และก่อนใส่ควรทำความสะอาดอีกครั้ง ฟันปลอมที่ใส่มานานแล้ว ถ้ามีคราบหรือหินปูนเกาะ อาจใช้น้ำยาสำหรับแช่ฟันปลอมโดยเฉพาะ แช่ได้เป็นครั้งคราว

6. ลิ้นที่เป็นฝ้า


เนื่องจากมีการสะสมของเศษอาหารและแบคทีเรียบนผิวด้านบนของลิ้น ก็เป็นสาเหตุของกลิ่นปากได้ เราสามารถใช้แปรงสีฟันแปรงลิ้นขณะแปรงฟัน หรือใช้ผ้า ไหมขัดฟัน หรือไม้ขูดลิ้น ขูดออก นอกจากนี้การรับประทานอาหารที่มีกากก็ช่วยขัดถูลิ้นได้ เช่น อ้อย สับปะรด


7. น้ำลาย


ก็มีส่วนทำให้เกิดกลิ่นปากได้ ถ้ามีน้ำลายน้อย ชำระล้างเศษอาหารได้ไม่หมด ก็จะทำให้มีกลิ่นปากได้ ตอนตื่นนอนจึงมักจะมีกลิ่นปาก เพราะขณะหลับมีการไหลเวียนของน้ำลายน้อย ผู้ที่มีน้ำลายข้นเหนียว ก็จะชำระล้างเศษอาหารได้ไม่ดีเท่าผู้ที่มีน้ำลายใส ดังนั้นถ้ารู้สึกว่าปากแห้งคอแห้ง ควรดื่มน้ำบ่อยๆ


B : สำหรับ สาเหตุภายนอกช่องปาก จะเกี่ยวข้องกับระบบต่างๆ ของร่างกาย เช่น


1. โรคระบบทางเดินหายใจส่วนบน


เริ่มตั้งแต่จมูก คอ จนถึงหลอดลม เช่น โรคโพรงจมูกอักเสบหรือที่เรียกว่า ไซนัสอักเสบ เกิดจากมีของเหลวหรือหนองอยู่ในโพรงอากาศของกระดูกใบหน้า ซึ่งมีหลายโพรง การอักเสบจนมีหนองนี้ จะทำให้มีกลิ่นออกมาทางจมูกขณะหายใจ และทางปากขณะพูด ดังนั้นจึงไม่ควรปล่อยให้ตัวเองเป็นหวัดบ่อยๆ หรือเป็นนานๆ


2. มะเร็งที่โพรงจมูก


จะมีกลิ่นเหม็นมาก และจะมีหนองไหลออกจากจมูกลงไปในคอ เวลาก้มศีรษะ ซึ่งจะต้องปรึกษาแพทย์


3. ทอนซิลอักเสบ


ผู้ที่เจ็บคอขณะที่มีการอักเสบในลำคอหรือต่อมทอนซิลอักเสบเรื้อรัง ก็จะมีกลิ่นปากได้ และจะหายไปได้เมื่อคอหายอักเสบ


4. โรคระบบทางเดินหายใจส่วนล่าง


คือ ปอด ผู้ที่เป็นโรคปอดเรื้อรัง วัณโรคปอด หรือมะเร็งที่ปอด จะมีกลิ่นออกมากับลมหายใจและลมปากได้ ผู้ที่สูบบุหรี่นานๆ ก็ทำให้ลมหายใจและลมปากมีกลิ่นได้เช่นกัน


5. ระบบย่อยอาหาร


เริ่มตั้งแต่ปาก หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร ลำไส้ ผู้ที่เป็นโรคกระเพาะอาหาร มีแผลในกระเพาะอาหาร หรือมีหนอง อาจมีกลิ่นออกมาขณะพูดหรือเรอได้ ผู้ที่ระบบย่อยอาหารไม่ดี ท้องอืด ท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อยเป็นประจำ เมื่อมีลมออกจากกระเพาะ ก็จะมีกลิ่นเหมือนอาหารบูดตามออกมาด้วย รวมทั้งผู้ที่ระบบขับถ่ายไม่ดี ท้องผูกบ่อยๆ เมื่อมีลมดันขึ้นหรือเรอ ก็จะทำให้ปากมีกลิ่นได้เช่นกัน


นอกจากนี้กลิ่นปากยังเกิดได้จากการที่สารมีกลิ่นถูกดูดซึมเข้าทางกระแสโลหิต และถูกขับถ่ายออกทางลมหายใจ เหงื่อ น้ำลาย หรือทางปัสสาวะ สารที่ถูกดูดซึมเข้าไปนี้อาจมาจากอาหาร เครื่องดื่ม ยา หรือมีการสะสมของสารที่ผิดปกติในเลือด


6. การรับประทานอาหารที่ทำให้เกิดกลิ่น


เช่น กระเทียม หัวหอม เครื่องเทศ สะตอ จะทำให้มีกลิ่นปากได้ แต่เมื่อถูกย่อย ดูดซึม และขับถ่ายออกหมด กลิ่นก็จะหายไป แต่ถ้ารับประทานอย่างต่อเนื่อง ก็จะทำให้มีกลิ่นปากอย่างต่อเนื่องได้ด้วย


7. เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิด


เช่น เหล้า เบียร์ ก็ทำให้มีกลิ่นปาก ยาบางชนิดก็อาจทำให้เกิดกลิ่นได้ เช่น ยาที่ใช้รักษาผู้ป่วยพิษสุราเรื้อรัง ยาที่ใช้รักษาผู้ป่วยโรคจิตบางตัว ก็ทำให้มีกลิ่นได้


การใช้น้ำยาบ้วนปากเพื่อดับกลิ่นปาก ควรเลือกใช้ให้เหมาะสม น้ำยาบ้วนปากที่ผสมน้ำยาฆ่าเชื้อโรค มักใช้เมื่อมีอาการอักเสบ ติดเชื้อ หรือมีแผลในช่องปากหรือลำคอเท่านั้น ไม่ควรใช้เป็นประจำโดยไม่ได้กำจัดสาเหตุที่ทำให้เกิดกลิ่นปากนั้นออกไป เช่น โรคเหงือกอักเสบ ฟันผุ หรือรากฟันเป็นหนอง ถ้าไม่แก้ไขที่ต้นเหตุ กลิ่นปากก็จะไม่มีวันหมดไปได้


เหตุผลที่ไม่แนะนำให้ใช้น้ำยาบ้วนปากที่ผสมน้ำยาฆ่าเชื้อโรคอย่างต่อเนื่อง เพราะยาจะไปทำลายเชื้อแบคทีเรียที่อยู่ตามปกติในช่องปากให้หมดไป จะทำให้ติดเชื้อราได้ง่าย และถ้าเป็นเชื้อราแล้ว จะรักษาค่อนข้างยากและหายช้า สำหรับน้ำยาบ้วนปากที่ผสมฟลูออไรด์ ซึ่งทันตแพทย์แนะนำให้อมบ้วนปาก เพื่อป้องกันฟันผุ สามารถใช้ได้ โดยเลือกชนิดที่ไม่มีน้ำยาฆ่าเชื้อโรคผสมอยู่


ถ้าเป็นกลิ่นปากที่เกิดขึ้นชั่วครั้งชั่วคราวหลังรับประทานอาหารที่มีกลิ่นแรง ให้เคี้ยวใบสะระแหน่ ผักชีฝรั่ง หรือกานพลูหลังมื้ออาหาร หรือสะดวกกว่านั้นก็คือ เคี้ยวหมากฝรั่งชนิดไม่มีน้ำตาลหลังมื้ออาหารค่ะ


9 เคล็ดลับลดกลิ่นปาก


1. ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เพราะการดื่มน้ำมากๆ ช่วยล้างแบคทีเรียออกจากน้ำลาย
2. อย่าปล่อยให้ปากแห้ง เพราะจะทำให้ความเข้มข้นของแบคทีเรียในปากเพิ่มมากขึ้น ทำให้เกิดกลิ่นปากได้ง่าย
3. ดื่มน้ำมะนาว จะช่วยเพิ่มปริมาณน้ำลาย
4. หลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟ เพราะจะทำให้เกิดกลิ่นปากได้
5. แปรงฟันทุกครั้งหลังมื้ออาหาร และอย่าลืมแปรงด้านบนของลิ้นด้วย
6. ถ้าไม่สะดวกจะแปรงฟัน ให้บ้วนปากด้วยน้ำเปล่า และหากแปรงเสียให้เปลี่ยนแปรง
7. ใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำ อย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง
8. เลิกสูบบุหรี่
9. ตรวจสุขภาพฟันอย่างสม่ำเสมอ

แต่งหน้าง่ายๆสไตล์"เต้ย"

เอาใจสาวๆที่ชอบเค้ก

เอาใจสาวๆแนววินเทจ



สำหรับ "วินเทจ" ความหมายในแง่แฟชั่นจะหมายถึง "ของเก่า" หรือ "ของที่ทำให้ดูเก่า" ที่เราเห็นกันอยู่บ่อย ๆ ก็จะเป็นพวกของมือสอง หรือถ้าจะให้เป็นวินเทจแบบของแท้แน่นอนก็จะต้องเป็นสมบัติของพ่อแม่(หรือแม้แต่ของเพื่อน 555+) ที่เรานำกลับมาใช้ มาใส่ใหม่ได้เรื่อยๆตามช่วงเทรนด์ในแต่ละยุค บางคนก็ไม่สนใจยุค เป็นความชอบส่วนบุคคล
ลองนึกถึงภาพของหญิงสาวในยุค 60's ดู... สาว ๆ สมัยนั้นเค้าใส่เดรสสั้นทรงเอไลน์ มีปกเสื้อใหญ่ ๆ อาจจะมีคอร์เซ็ต(เข็มขัดเส้นใหญ่ ๆ)คาดด้วยก็ได้ นี่เป็นแค่ตัวอย่างเดียว ยังมีเสื้อผ้าสไตล์วินเทจแพทเทรินเก๋ ๆ อีกมากมายให้เราเลือกใส่กัน

แต่เดี๋ยวนี้ส่วนใหญ่เสื้อผ้า ข้าวของ เครื่องประดับที่เราเห็นที่เค้าบอกว่าสไตล์วินเทจ มักจะเป็น "เฟควินเทจ" หรือจะพูดง่าย ๆ ก็คือทำแพทเทรินสไตล์เก่า แต่ผ้าใหม่เท่านั้นเอง
ไม่ว่าจะเป็น "วินเทจ" หรือ "เฟควินเทจ" ก็มีเสน่ห์ไปคนละแบบเหมือนกัน แต่อย่างนึงที่มีเหมือนกันคือ "ความเรียบง่าย" ที่ดูทีไรก็ไม่เบื่อซักที แถมแฟชั่นนี้ยังตอบรับกระแสอนุรักษ์ทรัพยากรโลกด้วย(ก็เราไม่ต้องซื้อใหม่ไงคะ เอาของคุณยายคุณแม่มาใช้บ้าง ของเพื่อนบ้าง เห็นไหมละค่ะ ไม่ต้องเสียเงินซื้อใหม่ แล้วยังไม่ต้องใช้ทรัพยากรธรรมชาตในการผลิตเสื้อผ้าอีกด้วย) นอกจากนี้เรายังสามารถส่วมใส่ได้หลายโอกาส ไม่ว่าจะเป็นในวันธรรมดา หรือวันที่เราต้องออกงานในโอกาสพิเศษ

ส่วนเรื่องเครื่องประดับที่จะมามิกซ์แอนด์แมตช์กับเสื้อผ้าสไตล์วินเทจ ก็จะเป็นพวกเครื่องประดับทองเหลืองทั้งหลายซึ่งเดี๋ยวนี้ก็มีทั้งที่เป็นทองเหลืองแท้ ๆ (ซึ่งก็จะมีราคาสูงซักหน่อย) และที่เป็นทองเหลืองที่ชุบขึ้นมาใหม่ และกระเป๋าก็สไตล์กระเป๋าหนังทั้งแบบสะพายเฉียงและสะพายข้าง
ในวันธรรมดาสาว ๆ อาจจะเลือกใส่เชิร์ตตัวโคร่ง พับแขน คู่กับยีนส์ขาเดฟหรือเลกกิ้ง แล้วก็คาดเข็มขัด หรือคอร์เซ็ต ซักเส้นทับเสื้อเชิร์ต และเพิ่มความโมเดิร์นแบบเท่ห์ ๆ ด้วยแว่นเรย์แบรนกับรองเท้าผ้าใบหรือคัชชูหนังส้นเตี้ย แค่นี้ก็ออกไปข้างนอกได้แบบชิลล์ ๆ แล้ว

และเมื่อเราจะต้องออกงาน เราก็สามารถเลือกใส่เดรส(จะเป็นเดรสยาวหรือสั้นก็ได้)ทรงเอก็สวยดีแต่ถ้าสาวคนไหนไม่ค่อยมั่นใจกับเดรสทรงเอ ลองใช้เข็มขัดเส้นเล็กๆ มาช่วยเน้นส่วน ให้ดูมีส่วนเว้าโค้งก็ได้ค่ะ หรือจะเลือกใส่กระโปรงเองสูงหรือกางเอง คู่กับเชิร์ตแขนยาวเข้ารูปก็ได้นะคะ เดี๋ยวนี้เค้ามีเสื้อเชิร์ตแบบเก๋ ๆ มีลูกเล่นที่คอเสื้อแปลก ๆ ให้เราเลือกมากมายเลยล่ะค่ะ เลือกใส่รองเท้าส้นสูง(จะเป็นส้นตันหรือส้นเข็ม)จะเหมาะมาก
เสื้อผ้าสไตล์นี้น่ะบางครั้งเราไม่ต้องเสียเงินซื้อก็ได้ค่ะ ลองไปเปิดตู้เสื้อผ้าคุณแม่ดู เราอาจจะได้เจอเสื้อผ้าเก๋ ๆ เยอะแยะเลยก็ได้ เห็นไหมล่ะสวยเก๋ ประหยัด แล้วยังอินเทรนด์ได้อีก

วิธีเก็บผมหางม้า